วัตถุดิบของถุงมือยางคือยางธรรมชาติ เมื่อวัตถุดิบถูกผสมกับสารเคมีบางชนิดในระบบกวน มันจะกลายเป็นของเหลวดั้งเดิมที่ผสมกันของสายการผลิตถุงมืออัตโนมัติเต็มรูปแบบซึ่งใช้ในการชุบแม่พิมพ์มือ ถุงมือยางใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตและชีวิตประจำวัน เช่น ในด้านการแพทย์ ด้านการทำความสะอาดและสุขอนามัย ด้านการผลิตอุตสาหกรรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ถุงมือยางอาจทำให้เกิดอาการแพ้ผิวหนัง ควรทำอย่างไรเมื่อแพ้จากการสวมถุงมือยาง?
อาการแพ้ถุงมือลาเท็กซ์
1. ผิวหนังแดงและคัน: อาการผื่นแดงจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยผื่นมักเกิดขึ้นบริเวณที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ลาเท็กซ์ ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง การเกาโดยผู้ป่วยอาจทำให้ผิวหนังเสียหายและติดเชื้อแทรกซ้อนได้
2. อาการทางระบบทางเดินหายใจ : หลังจากสูดดมอนุภาคที่มีส่วนประกอบของน้ำยาง ผู้ป่วยอาจมีอาการแพ้ทางเดินหายใจ โดยมักจะมีอาการคล้ายกับหวัด เช่น จาม น้ำมูกไหล และคัดจมูก อาจมีอาการไอ และในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการหายใจมีเสียงหวีดและหายใจลำบาก
3. อาการทางตา : หากน้ำยางสัมผัสดวงตา อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตาและอาการแพ้ได้ โดยมีอาการตาแดง คัน น้ำตาไหล เยื่อบุตาอักเสบ เป็นต้น
4. อาการทางระบบทางเดินอาหาร : หลังจากรับประทานหรือสัมผัสน้ำยาง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้ในระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เป็นต้น
5. อาการของโรคช็อกจากภูมิแพ้: นี่คืออาการที่รุนแรงที่สุดของอาการแพ้ลาเท็กซ์ แม้ว่าจะพบได้ค่อนข้างน้อย แต่ก็เป็นอันตรายมาก ผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็ว เวียนศีรษะ และหมดสติ
ควรทำอย่างไรหลังจากแพ้ถุงมือลาเท็กซ์
หากคุณแพ้ถุงมือยาง สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ คุณสามารถรักษาได้โดยการทายาเฉพาะที่ รับประทานยา ล้างถุงมือ และปรับเปลี่ยนอาหารการกิน
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้: ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสถุงมือยางเพื่อป้องกันอาการแพ้ ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยยังสามารถซักถุงมือด้วยน้ำสะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
2. การใช้ยาเฉพาะที่: หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น มีรอยแดง บวม และคันในบริเวณดังกล่าว สามารถใช้ยา เช่น ครีมไฮโดรคอร์ติโซนบิวทิเรต และครีมโมเมทาโซน ฟูโรเอต ได้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อรักษาอาการแพ้
3. ยารับประทาน: ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ผู้ป่วยสามารถรับประทานยา เช่น เม็ดลอราทาดีน และเม็ดเซทิริซีนไฮโดรคลอไรด์ เพื่อการรักษาอาการแพ้ได้
4. ล้างถุงมือ: หากผิวหนังมือของผู้ป่วยมีอาการแพ้ แนะนำให้ผู้ป่วยล้างถุงมือด้วยน้ำสะอาดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้อาการแพ้รุนแรงขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยสามารถล้างถุงมือด้วยน้ำสบู่เพื่อบรรเทาอาการแพ้ได้เช่นกัน
5. ปรับการรับประทานอาหาร: ในช่วงการรักษาผู้ป่วยควรใส่ใจกับการปรับการรับประทานอาหารด้วย โดยควรรับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย และหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เช่น พริกและพริกเสฉวน เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่รุนแรงขึ้น