ถุงมือแพทย์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในสถานพยาบาล ถุงมือเหล่านี้แบ่งออกเป็นถุงมือตรวจโรคและถุงมือผ่าตัด ซึ่งถุงมือผ่าตัดจำเป็นต้องมีมาตรฐานคุณภาพที่สูงขึ้น ความไวที่สูงขึ้น และการควบคุมการผลิตที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ส่งผลให้กระบวนการผลิตถุงมือตรวจโรคและ ถุงมือผ่าตัด แตกต่างกันออกไป
วัตถุดิบ
ถุงมือทางการแพทย์อาจผลิตจากน้ำยางธรรมชาติ ยางไนไตรล์ หรือไวนิล (PVC)
น้ำยางธรรมชาติสกัดจากยางของต้นยางพารา อย่างไรก็ตาม ถุงมือยางลาเท็กซ์ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ลาเท็กซ์
ยางไนไตรล์ ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทำจากอะคริโลไนไตรล์และบิวทาไดอีน ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้ลาเท็กซ์
แบบมีแป้ง vs แบบไม่มีแป้ง
ถุงมือทางการแพทย์อาจมีแป้งหรือไม่มีแป้งก็ได้
ถุงมือแบบมีแป้งเคลือบด้วยแป้งข้าวโพดเพื่อให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม แป้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย เช่น การระคายเคืองเนื้อเยื่อ
ดังนั้นถุงมือตรวจโรคและผ่าตัดส่วนใหญ่ในปัจจุบันจึงไม่มีแป้ง
ปลอดเชื้อ vs. ไม่ปลอดเชื้อ
ถุงมือผ่าตัดจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ (ปราศจากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์) และบรรจุแยกชิ้นเป็นคู่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ
ถุงมือที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ โดยทั่วไปบรรจุในกล่องละ 100 หรือ 200 คู่ ใช้สำหรับการตรวจร่างกายทั่วไปหรือขั้นตอนที่มีความเสี่ยงต่ำ
สี
ถุงมือทางการแพทย์ส่วนใหญ่มักมีสีขาว แต่ก็มีสีอื่นๆ ให้เลือกเช่นกัน (เช่น สีน้ำเงิน สีม่วง สีเขียว สีดำ เป็นต้น)
หมายเหตุ: สีไม่บ่งบอกถึงวัสดุหรือประสิทธิภาพ
ถุงมือไนไตรล์มักมีสีม่วงหรือสีน้ำเงิน ในขณะที่ ถุงมือพีวีซี โดยปกติจะมีความโปร่งใส
พื้นผิวแบบมีพื้นผิว vs. พื้นผิวเรียบ
ถุงมือที่มีพื้นผิวสัมผัส (แบบด้านหรือแบบด้าน) จะให้การยึดเกาะที่ดีกว่าและได้รับความนิยมมากกว่า
ถุงมือไนไตรล์และลาเท็กซ์อาจมีพื้นผิวเป็นลายได้ แต่ถุงมือ PVC มักจะมีพื้นผิวเรียบเสมอเนื่องจากข้อจำกัดด้านวัสดุ
ความหนา
ความหนา (วัดเป็นมิลลิเมตร) เป็นข้อกำหนดหลักสำหรับถุงมือทางการแพทย์
ส่วนต่างๆ ของถุงมือมีความหนาแตกต่างกัน โดยส่วนนิ้วมือและฝ่ามือจะมีความหนามากที่สุด
ถุงมือที่หนากว่าจะช่วยปกป้องทางกลและทนต่อสารเคมีได้ดีกว่า
บทสรุป
ถุงมือทางการแพทย์ มีให้เลือกใช้หลายวัสดุ โดยมีรุ่นที่ไม่ใช้สารฆ่าเชื้อสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป ถุงมือผ่าตัดต้องการความแม่นยำสูงกว่า กระชับพอดีมือกว่า และสัมผัสที่ไวกว่า ทำให้มีราคาแพงกว่าถุงมือแพทย์ทั่วไป