เฟิงหวาง——ผู้ผลิตสายการผลิตถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งชั้นนำของโลก

เฟิงหวางเป็นหนึ่งในผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ส่งออกสายการผลิตถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งชั้นนำของโลก ด้วยประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาและการผลิตกว่า 20 ปี เราทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาโซลูชันที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ เพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคต

ขอบเขตธุรกิจของเฟิงหวาง

• การปรับปรุงสายการผลิตถุงมือ

• การปรับปรุงกระบวนการผลิต

• การออกแบบเขียนแบบก่อสร้างโรงงาน

• ข้อเสนอเพื่อนวัตกรรมการผลิต

• การบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องจักรการผลิต

• ข้อเสนอเพื่อการลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพ

• บริการหลังการขายที่ตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ

จุดแข็งของเฟิงหวาง

• พนักงานมากกว่า 70 คน

• ฝ่ายวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

• ได้รับการรับรองด้วย 3 ระบบ ของ ISO 14001:2015, ISO 45001:2018 และ ISO 9001:2015 และมีใบรับรอง CE

• เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรมากกว่า 40 รายการในเครื่องจักร เช่น เครื่องบรรจุภัณฑ์และเครื่องขายหน้าร้าน

• เครือข่ายการจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบโลกาภิวัตน์

• จัดตั้งศูนย์โซลูชั่นลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่ลูกค้าทั่วโลก

• ความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยี

• ซอฟต์แวร์ออกแบบวาดภาพล่าสุด

ข้อเท็จจริงโดยย่อเกี่ยวกับเฟิงหวาง

เฟิงหวางคือผู้ให้บริการแบบครบวงจร นำเสนอเครื่องจักรและส่วนประกอบครบวงจรสำหรับสายการผลิตถุงมือ สายการผลิตหมายถึงเส้นทางที่ผลิตภัณฑ์ต้องผ่านในกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตไปจนถึงกิจกรรมต่างๆ ในสายการผลิต เช่น การชุบ การอบแห้ง การรีดขอบ และการถอดแบบ

เฟิงหวาง ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันสายการผลิตถุงมือ ด้วยการควบคุมตลาดการผลิตถุงมือมาอย่างยาวนาน เราจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจักรจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงด้วยโซลูชันของเรา โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมของเราช่วยเร่งประสิทธิภาพให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน บริษัทประกอบด้วย 7 แผนก ได้แก่ ฝ่ายการค้าต่างประเทศ ฝ่ายผลิต ฝ่ายการเงิน ฝ่ายความปลอดภัย ฝ่ายเทคโนโลยีวิศวกรรม ฝ่ายโลจิสติกส์ และฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 และสร้างแรงผลักดันและพลังขับเคลื่อนใหม่ๆ ให้กับการพัฒนาของบริษัท

แผนการลดต้นทุนองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพ

การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการต้นทุน

วิธีที่ 1: เสนอระบบบัญชีต้นทุนแบบรวมศูนย์โดยอิงตามสถานการณ์ปัจจุบันขององค์กร สร้างแบบจำลองการบัญชีผลิตภัณฑ์ และสร้างกลไกการวิเคราะห์และการจัดการต้นทุนแบบวงจรปิด จัดเรียงและจัดตั้งบรรทัดฐานการจัดการแบบรวมศูนย์สำหรับการรวบรวม การจัดสรร และการโอนต้นทุนการผลิต จึงทำให้สามารถบัญชีต้นทุนตามประเภทและแบบจำลองของผลิตภัณฑ์ได้ อิงตามส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ สร้างสถิติปัจจัยขับเคลื่อนต้นทุน กำหนดมาตรฐานตรรกะการบัญชีต้นทุนและสูตรการคำนวณ และสร้างแบบจำลองการบัญชีต้นทุนผลิตภัณฑ์พื้นฐาน

วิธีที่ 2: สร้างกลไกการจัดการที่สนับสนุนการปรับปรุงต้นทุนผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวางแผนต้นทุน การบัญชีต้นทุน การวิเคราะห์ปัจจัย และการดำเนินการปรับปรุง โดยผ่านการวิเคราะห์ความแปรปรวนของต้นทุน ระบุปัจจัยสำคัญและแผนกที่รับผิดชอบที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงต้นทุน สร้างกลไกการติดตามรายสัปดาห์สำหรับรายการสำคัญที่ทำให้เกิดความแปรปรวนของต้นทุนเพื่อขับเคลื่อนเวิร์กช็อปการผลิตเพื่อปรับปรุงและลดต้นทุน โดยผ่านรายงานการจัดการและการประชุมการจัดการธุรกิจ ติดตามการบรรลุงบประมาณทุกเดือน และส่งเสริมการปรับปรุงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการผลิต

ปัจจัยหลักสองประการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตของบริษัทคือการปรับปรุงขีดความสามารถของอุปกรณ์และ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการความพยายามในการปรับปรุงจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ 7 ประการ ได้แก่ การแบ่งงานในองค์กร การจัดการทีม การจัดการอุปกรณ์ การอัปเกรดเอกสารกระบวนการ การส่งเสริม 5ส การจัดการภาพ และการส่งเสริมหน่วยงานเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุนี้ จึงบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการผลิตได้สำเร็จ ได้มีการจัดตั้งกลไกและเอกสารกระบวนการจัดการการผลิตที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของหน่วยงานได้อย่างมีนัยสำคัญ และบรรลุเป้าหมายย่อยในการลดต้นทุนแรงงานได้สำเร็จ

การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคุณภาพ

จากมุมมองของวิธีการปรับปรุงการจัดการคุณภาพกระบวนการ มุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ความเสถียร และประเด็นสำคัญในกระบวนการผลิตตลอดกระบวนการควบคุมคุณภาพ องค์กรควรดำเนินงานใน 6 ด้าน ได้แก่ การชี้แจงคำจำกัดความของข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ การเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบแบบสุ่ม การกำหนดมาตรฐานสำหรับข้อบกพร่องด้านรูปลักษณ์ภายนอก การปรับปรุงโครงการพิเศษ และการนำการควบคุม SPC มาใช้ ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคุณภาพจะบรรลุผลสำเร็จ ซึ่งส่งผลให้เกิด ลดต้นทุนกระบวนการผลิต และการบรรลุวัตถุประสงค์